วันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2556

Direct Method (วิธีสอนแบบตรง)


Direct Method  (วิธีสอนแบบตรง)

                     วิธีสอนแบบนี้เกิดขึ้นในยุโรประหว่างปี 1850-1900 เป็นการเรียนรู้ภาษาแบบธรรมชาติ (Natural Approach) โดยให้การเรียนภาษาที่สองหรือภาษาเป้าหมายเกิดขึ้นเหมือนการเรียนภาษาแม่ ใช้ทักษะการพูดเป็นวิธีการสอน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมีการแปลซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงการสอนภาษาจากวิธีการสอนแบบเน้นไวยากรณ์และการแปล การสอนวิธีนี้เน้นที่การฟังและพูด โดยเน้นการใช้สื่อของจริง การสอนแบบตรงจะเน้นการใช้ภาษาเป้าหมายเป็นสื่อในการสอนในห้องเรียน โดยเริ่มต้นจากการสอนให้ผู้เรียนฝึกฟังความหมายในประโยค เช่น ประโยคคำถาม ประโยคคำตอบ ผู้สอนจะพยายามให้ผู้เรียนเข้าใจความหมายในประโยคด้วยการเชื่อมโยงคำกับของจริง ผู้เรียนจะเป็นผู้สรุปกฎเกณฑ์ของภาษาด้วยตนเองหลังจากได้รับการฝึกโครงสร้างของภาษาจากการฝึกพูด จากนั้นอาจให้ผู้เรียนทำแบบฝึกหัดกฎไวยากรณ์

ขั้นตอนการสอน :
  1. ฟังและอ่านบทสนทนา 
  2. สอนคำศัพท์ โดยใช้ภาษาเป้าหมาย
  3. ถามคำถามเพื่อเช็คความเข้าใจ
  4. สรุป
  5. ทำแบบฝึกหัด : เขียนตามคำบอก, เติมคำในช่องว่าง, บทความ
เทคนิคการสอน :
  1. การอ่านออกเสียง
  2. แบบฝึกหัด ถาม-ตอบ
  3. นักเรียนรับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยแก้ไขให้ถูกต้อง
  4. ฝึกบทสนทนา
  5. แบบฝึกหัด : เติมคำในช่องว่าง
  6. เขียนตามคำบอก
  7. Mind Map
  8. การเขียนหน้า
ข้อดีของวิธีสอนแบบตรง
  • ช่วยให้ผู้เรียนฟังและพูดได้คล่อง ซึ่งเป็นพื้นฐานที่ดีของการเรียนการอ่านและเขียน
  • ช่วยให้ผู้เรียนคุ้นกับภาษาที่เรียนได้เร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเรียนระดับต้นๆ

ข้อเสียของวิธีสอนแบบตรง
  • ผู้สอนจะต้องเป็นเจ้าของภาษา หรือผู้ที่มีความถนัดในภาษาที่สอน











ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น